Translate

ให้บทกวีได้เดินทางด้วยตัวของมันเอง

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

เสียงลือพี่เล่าอ้าง  เอกไทย คุ้นเคย
ไร้ยศศักดินาใด       พี่เจ้า
ประพันธ์จับจิตใจ    โคลงสี่ ชีวิต
รีบเร่งรวดเร็วเข้า    พี่เฝ้า ถวิลหา
       
   ก่อนพบน้องสาขาวันแรก ข้าพเจ้าได้แต่งโคลงสี่สุภาพขึ้นมาบทหนึ่ง เพื่อใช้เป็นคำใบ้ในการหาพี่รหัส ให้น้องได้จับสลากหาพี่รหัสว่าจะได้ใคร ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้น เพราะข้าพเจ้าได้แต่งอย่างตั้งใจและใส่ความรู้สึกบนบทประพันธ์บทนี้ด้วย
ข้าพเจ้าตั้งใจจะให้น้องหาพี่นานๆ แต่กลับตรงข้าม๕๕๕ น้องหาข้าพเจ้าเจอในวันนั้นเลย หมดสนุกซะแล้วครานี้ ก็มีไม่กี่คนในสาขา ที่ชอบแต่งโคลงสี่บ่อยๆแล้วโพสต์ในเฟสบุ๊คประจำ๕๕๕
สรุปแล้วก็มีน้องรหัสผู้หญิงหนึ่งคนครับ ชื่อน้องนิ่ง น้องก็น่ารักดีครับ แต่ข้าพเจ้าและน้องก็ไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไร ไว้มีโอกาสจะนัดน้องพาไปกินด้วยกันกับพี่สายรหัสของเรา

#สายรหัส “ผัดไท”

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

       คิดหวนครั้งเริ่มต้น  ตรึงใจ ลูกเอย
ถึงท่านผู้นำไป              เก่งกล้า
พ่อประสิทธิ์ประสาทให้   ข้ามฝั่ง  ดั่งฝัน
ครูจักนำก้าวหน้า           อย่าช้า แทนคุณ

สวัสดีครับพ่อครู ผมรู้สึกดีใจและเสียดายในเวลาเดียวกัน ที่ได้ทราบว่าพ่อต้องก้าวเดินไปในทางที่ก้าวหน้าทางการงานของพ่อ ทุกสิ่งเป็นไปตามกาลเวลา แต่คุณงามความดี ความรู้ ความรัก คำสอน ที่พ่อได้มอบให้ มันยังอยู่ในใจเสมอมา ขอบคุณพ่อมากๆนะครับ ผมอยากกลับไปหาพ่อนะครับ แต่เพราะเหตุหลายๆอย่างที่ผมไม่สามารถกลับไปเยี่ยมพ่อได้ ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้กลับไป
 ขอโทษพ่อนะครับที่เคยเป็นเด็กเกเร ขอโทษพ่อที่ทำให้พ่อไม่สบายใจ แต่ผมก็รักพ่อ คิดถึงพ่อนะครับ
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์ทั้งหลาย คุ้มครองพ่อของลูก จงดลบันดาลให้พ่อของลูกมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง  สำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน  สมปรารถนาในทุกๆสิ่งที่ได้ตั้งใจนะครับพ่อ
ขอบคุณพ่อสำหรับทุกๆสิ่งที่พ่อได้ให้ลูกคนนี้นะครับ พ่อคือแบบอย่างที่ดีของผมเสมอมาครับ….
#นัทธพงศ์  เฉลิมพงษ์ รหัสประจำตัว ๐๑๐๔๐


       คิดถึงครูที่ให้     รู้ความ ลูกเอย
ถึงท่านผู้ปลูกงาม      งอกกล้า
พ่อเพียรพร่ำทุกยาม   สร้างศิษย์  สู่ฝัน
ครูดั่งพ่อตัวข้า          เปี่ยมล้น บุญคุณ...

#จดหมายถึงพ่อครู "กฤษฎา พิมพันธ์"



  
   จดจำจำจดไว้         เล่มบาง
จำจดบ่จืดจาง           แจ่มจ้า
เรื่องร้อยสิบเส้นทาง    พันหมื่น ชื่นขม
ราวเสกสร้างสรรค์ข้า   โลกล้วน เรียบเรียง
        
     บทประพันธ์ข้างต้น เป็นโคลงสี่สุภาพที่ข้าพเจ้าเขียนขึ้น ในวันที่ข้าพเจ้าได้สมุดบันทึกเล่มบางเล่มใหม่ ขนาดเอห้าเห็นจะได้ เป็นขนาดที่ข้าพเจ้าพอใจ สนนราคาเล่มละสิบห้าบาท ทำจากกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (อันที่จริงข้าพเจ้าคิดว่า ธรรมชาติคงไม่อยากเป็นมิตรกับเราสักเท่าไรนะ) ข้าพเจ้าเขียนโคลงบทนี้ ตั้งใจแต่งขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งเตือนความจำต่อใจว่า “การจดบันทึก ก็สามารถเก็บเรื่องราวในอดีต ความรู้สึก ในช่วงเวลาที่เราผ่านมาแล้วได้เช่นกัน"  ข้าพเจ้าเลือกที่จะเขียนไว้ที่หน้าแรกของสมุดบันทึก เพื่อจะบอกกับตัวเองว่า การจดบันทึกนั้นดีแค่ไหน



วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

เที่ยงคืนกว่าๆ ซึ่งเป็นวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเพื่อนสาขาเดียวกันทักมาหา "ฟลุค แต่งโคลงสี่ให้หน่อยจ้า" ห้ะ! เที่ยงคืน โคลงสี่ ๕๕๕ ก็เลยได้ช่วยเพื่อน เป็นโคลงบทแรกเลยครับ ที่ได้แต่งเกี่ยวกับชื่อ ถือว่าเป็นการฝึกไปด้วย เป็นชื่อของน้องของเพื่อนครับ น้องชื่อ "ชรินรัตน์ หอมจิต" ทีแรกก็ไปไม่เป็นครับผม เลยลองๆแยกคำ ตีความหมาย ชื่อน้อง น่าจะมีความหมายว่า เครื่องประดับ หรือ เครื่องเพชรพลอย (รึเปล่า๕๕๕) เพราะ ชริน ก็แปลความหมายประมาณว่า การประดับประดา ส่วน รัตน์ แปลว่า แก้ว เพชร พลอย ก็เลยได้ตามนั้น ส่วนนามสกุลก็ตามตัว ซึ่งกระผมเขียนขึ้นได้ว่า
    
     ชรินเลิศทั่วหล้า  วิไล
รัตน์เจิดจรัสใส         แจ่มจ้า
หอมนำจับดวงใจ     แรกเริ่ม ตระกูล
จิตต่อครบถ้วนหน้า  เพียบพร้อบ วงศ์สกุล  

พอเขียนเสร็จ ก็ส่งให้เพื่อนเลยครับ วันต่อมา นางก็ซื้อขนมมาฝากด้วย ๕๕๕ ใจดีมากครับ ถือว่าต้องขอบคุณเพื่อน(ขอบคุณชื่อของน้องด้วยครับ) ที่ให้ได้ลองเขียนสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์การเขียนการแต่งใหม่ๆครับ ขอบคุณครับ

#บ่าวยางชุมน้อย อิอิ
ก่อนขะน้อยสิแต่ง เขียน หรือสงสัยเกี่ยวกับโคลงสี่สุภาพ ขะน้อยกะสิยกมือใส่หัวก่อน เพื่อเป็นการระลึกถึง พระคุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ที่ให่เอาได้ใหญ่เป็นผู่เป็นคน ที่เผิ่นได่สั่งได้สอนป้อนควมฮู้้ให้ ขะน้อยกะสิระลึกฮอด พ่อขุนรามคำแหง ที่เผิ่นได้คิดค้นลายสือไทยขึ้นมา จนกลายเป็นอักษรไทยให่เฮาได้เขียนจนสุมื่อนี่ คึดฮอด พ่อสุนทร ภู่ ผุเผิ่นเป็นกวีสี่แผ่นดิน ล่ะกะสุดท้าย พ่อศรีปราชญ์ ที่ขะน้อยยกยอล่ะกะถือว่าเป็นผุฮู้ในเรื่องโคลงสี่สุภาพอีกผุหนึ่ง 
แต่มีอีกแนวนึงที่ขะน้อยสิเฮ็ดก่อนแต่งโคลงสี่สุภาพ คือ การเขียนโคลงสี่สุภาพแม่แบบขึ้นไว้เบิ่งหรือเปรียบเทียบ เพื่อเป็นการทบทวนถึงฉันทลักษณ์ที่ถืกต้อง (เคล็ดลับข่อยเด้อ๕๕๕) โคลงแม่บทนี่มาจากเรื่อง ลิลิตพระลอ เนื้อควมว่า

ถ้าจำโคลงสี่สุภาพบทนี้ได้ กะสิฮู้ฮอดฉันทลักษณ์ได้บ่ยากเลยครับผม

   สวัสดีซ่วงบ่ายครับผม มื่อนี้ขะน้อยกะมีวิธีการแต่งโคลงสี่มาฝากเด้อครับ การสิแต่งโคลงสี่สุภาพได้ เฮากะต้องฮู้จักวิธีแต่งก่อนเด๊อะ แต่งไปเลยๆบ่ได้เด๋ มันบ่แม่นแนวเผิ่นตั้ว ๕๕๕ การสิแต่งสี่สุภาพต้องเบิ่งอิหยังแหน่ ต้องฮู้หยังแหน่ มื่อนี้มีมาฝากครับผม  อิอิ 



โคลงสี่สุภาพ

ข้อบังคับของโคลงสี่สุภาพ
๑. บทหนึ่งมี ๔ บรรทัด
๒. วรรคหน้าของทุกบรรทัด มี ๕ พยางค์ วรรคหลังของบรรทัดที่ ๑ - ๓ มี ๒ พยางค์ บรรทัดที่ ๔ มี ๔ พยางค์ สามารถท่องจำนวนพยางค์ได้ดังนี้
          ห้า -สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มักลงท้ายด้วย นา แฮ เฮย เพื่อรับคำ ต่อคำ เชื่อมคำ)
          ห้า- สอง
          ห้า - สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มักลงท้ายด้วย นา แฮ เฮย เพื่อรับคำ ต่อคำ เชื่อมคำ)
          ห้า - สี่ (หากจะให้เกิดความไพเราะในการอ่านนิยมลงเสียงจัตวา)
๓. มีตำแหน่งสัมผัสตามเส้นโยง
๔. บังคับรูปวรรณยุกต์ เอก ๗ โท ๔ ตามตำแหน่งในแผนผัง

ข้อบังคับของโคลงสี่สุภาพ ๑ บทหนึ่งมี ๔ บรรทัด ๒ วรรคหน้าของทุกบรรทัด มี ๕ พยางค์ วรรคหลังของบรรทัดที่ ๑ - ๓ มี ๒ พยางค์ บรรทัดที่ ๔ มี ๔ พยางค์ สามารถท่องจำนวนพยางค์ได้ดังนี้  ห้า -สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มักลงท้ายด้วย นา แฮ เฮย เพื่อรับคำ ต่อคำ เชื่อมคำ)  ห้า- สอง  ห้า - สอง (สร้อย ๒ พยางค์ มักลงท้ายด้วย นา แฮ เฮย เพื่อรับคำ ต่อคำ เชื่อมคำ)  ห้า - สี่ (หากจะให้เกิดความไพเราะในการอ่านนิยมลงเสียงจัตวา)๓. มีตำแหน่งสัมผัสตามเส้นโยง๔. บังคับรูปวรรณยุกต์ เอก ๗ โท ๔ ตามตำแหน่งในแผนผัง

หลักการจำตำแหน่งวรรณยุกต์ แบบฉบับลุงอ่ำ 
               กากากาก่าก้า            กากา (00)
          กาก่ากากากา                 ก่าก้า
          กากาก่ากากา                 กากา (00)
          กาก่ากากาก้า                 ก่าก้ากากา

๕. กรณีที่ไม่สามารถหาพยางค์ที่มีรูปวรรณยุกต์ตามต้องการได้ให้ใช้ เอกโทษ และโทโทษ
เอกโทษ และโทโทษ คืออะไร?

    คำเอกคำโท หมายถึง  พยางค์ที่บังคับด้วยรูปวรรณยุกต์เอก และรูปวรรณยุต์โท กำกับ อยู่ในคำนั้น โดยมีลักษณะบังคับไว้ดังนี้
        - คำเอก ได้แก่ พยางค์ที่มีรูปวรรณยุกต์เอกบังคับ เช่น ล่า เก่า ก่อน น่า ว่าย ไม่ ฯลฯ และให้รวมถึงคำตายทั้งหมดไม่ว่าจะมีเสียงวรรณยุกต์ใดก็ตาม เช่น ปะ พบ รึ ขัด ชิด (ในโคลงและร่ายใช้ คำตาย แทนคำเอกได้)

คำตาย คือ
    1. คำที่ประสมสระเสียงสั้นแม่ ก กา (ไม่มีตัวสะกด) เช่นกะ ทิ สิ นะ ขรุ ขระ เละ เปรี๊ยะ เลอะ โปีะ ฯลฯ
    2. คำที่สะกดด้วยแม่ กก กบ กด เช่น เลข วัด สารท โจทย์ วิทย์ ศิษย์ มาก โชค ลาภ ฯลฯ

        - คำโท ได้แก่ พยางค์ที่มีรูปวรรณยุกต์โทบังคับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงวรรณยุกต์ใดก็ตาม เช่น ข้า ล้ม เศร้า ค้าน

คำเอก คำโท ใช้ในการแต่งคำประพันธ์ประเภท "โคลง" และ "ร่าย"และถือว่าเป็นข้อบังคับของฉันทลักษณ์ที่สำคัญมาก ถึงกับยอมให้เอาคำที่ไม่เคยใช้รูปเอก รูปโท แปลงมาใช้ เอก และ โท ได้ เช่น เล่น นำมาเขียนใช้เป็น เหล้น ได้ เรียกว่า "โทโทษ" ห้าม ข้อน นำมาเขียนเป็น ฮ่าม ค่อน เรียกว่า "เอกโทษ" เอกโทษและโทโทษ นำมาใช้แก้ปัญหาได้ แต่ในปัจจุบันไม่นิยมใช้เอกโทษและโทโทษ  หากแต่งโคลงสี่สุภาพ ตามกระทู้หรือตามหัวข้อเรื่อง จะเรียกโคลงนั้นว่าโคลงกระทู้ โดยผู้แต่งจะเขียนกระทู้แยกออกมาด้านข้าง หากแยกออกมา ๑ พยางค์ เรียกว่า
กระทู้ ๑ คำหากแยกออกมา ๒ พยางค์ เรียกว่ากระทู้ ๒ คำ ดูตัวอย่างด้านล่าง หรือจากสุภาษิตคำโคลง บางสำนวน


  ( ขอขอบคุณ http://www.bloggang.com/mainblog.php )
                                   


   ผังโคลงสี่สุภาพครับผม

(ขอขอบคุณ https:www.thaipoet.net)




วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559



           โคลงบ้านๆ(บ่าวยางชุม)

       เพียงคิดถึงกลิ่นแก้ว   ยามใด
  เจ้าเพริศแพร้วกลางใจ    จิตข้า
             เสมอติดตรึงไว้     แก้วกลิ่น  งามงอน
       มาแค่เพียงพบหน้า     แค่นั้น สุขใจ

#๑๓/๐๙/๒๕๕๙ อารมณ์น้อยๆ ในมื่อที่ฝนฮำ